ในยุคที่ผู้บริโภคเสิร์ชหาเกือบทุกอย่างผ่าน Google และโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์จึงไม่ใช่แค่หน้าร้านออนไลน์ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มยอดขาย สร้างความน่าเชื่อถือ และขยายตลาดอย่างไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ หรือกำลังวางแผนขยายกิจการ นี่คือ 100 ธุรกิจที่การมีเว็บไซต์ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง พร้อมแนวทางการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
กลุ่มที่ 1: สินค้าแฟชั่นและความงาม
-
ขายเสื้อผ้าแฟชั่น
-
ขายรองเท้า
-
ขายกระเป๋า
-
ขายเครื่องประดับ
-
ขายเครื่องสำอาง
-
ร้านทำผม
-
คลินิกเสริมความงาม
-
ร้านทำเล็บ
-
สปา
-
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว/สมุนไพร
เว็บไซต์ช่วย: แสดงสินค้า, จองคิวออนไลน์, รีวิวจากลูกค้า, ระบบชำระเงิน
กลุ่มที่ 2: อาหารและเครื่องดื่ม
-
ร้านอาหาร
-
คาเฟ่
-
ร้านเบเกอรี่
-
ร้านชานม/กาแฟ
-
ขายอาหารคลีน
-
ขายอาหารแช่แข็ง
-
รับจัดเลี้ยง
-
ขายขนมของฝาก
-
ธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร
-
ขายวัตถุดิบอาหาร
เว็บไซต์ช่วย: เมนูออนไลน์, สั่งจองล่วงหน้า, รับออร์เดอร์จากต่างจังหวัด, ระบบแผนที่ร้าน
กลุ่มที่ 3: ธุรกิจการศึกษา
-
ติวเตอร์ออนไลน์
-
สอนภาษา
-
โรงเรียนกวดวิชา
-
คอร์สเรียนออนไลน์
-
โรงเรียนสอนพิเศษ
-
ครูดนตรี
-
โรงเรียนสอนศิลปะ
-
คอร์สสอนเขียนโปรแกรม
-
สอนทำอาหาร
-
สอนธุรกิจหรือการตลาด
เว็บไซต์ช่วย: แสดงคอร์สเรียน, สมัครเรียน, ระบบเรียนออนไลน์, รีวิวจากนักเรียน
กลุ่มที่ 4: งานบริการ
-
บริการรับทำบัญชี
-
บริการออกแบบโลโก้
-
ช่างภาพ/วีดีโอ
-
ออกแบบภายใน
-
บริการแปลภาษา
-
บริการจัดสวน
-
บริการรับทำเว็บไซต์
-
บริการดูแลโซเชียลมีเดีย
-
บริการทำความสะอาด
-
บริการขนส่ง/ส่งของ
เว็บไซต์ช่วย: ให้ลูกค้าเช็คราคา, ติดต่อสอบถาม, รับใบเสนอราคา, จองคิวบริการ
กลุ่มที่ 5: ธุรกิจออนไลน์และดิจิทัล
-
ขายของออนไลน์
-
ขายของในตลาดต่างประเทศ
-
ขายอีบุ๊ก
-
ขายเทมเพลต/ไฟล์ดิจิทัล
-
ขายภาพถ่าย/วิดีโอ
-
ให้เช่าเซิร์ฟเวอร์/โฮสติ้ง
-
สร้างแอปพลิเคชัน
-
ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์
-
Dropshipping
-
Affiliate Marketing
เว็บไซต์ช่วย: เป็นหน้าร้าน, SEO, เชื่อมต่อการตลาด, จับข้อมูลลูกค้า
กลุ่มที่ 6: สุขภาพและฟิตเนส
-
โค้ชฟิตเนส
-
คลินิกกายภาพ
-
คลินิกฝังเข็ม
-
ขายอุปกรณ์ออกกำลังกาย
-
ขายอาหารเสริม
-
สอนโยคะ/พิลาทิส
-
สปาเพื่อสุขภาพ
-
ร้านสมุนไพร
-
บริการเทรนสุขภาพ
-
คอร์สลดน้ำหนัก
เว็บไซต์ช่วย: ให้ข้อมูลบริการ, ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม, แสดงผลลัพธ์รีวิว
กลุ่มที่ 7: อสังหาริมทรัพย์และการลงทุน
-
นายหน้าอสังหาริมทรัพย์
-
โครงการบ้านจัดสรร
-
ที่ปรึกษาการเงิน
-
บริการประกันภัย
-
ขายบ้านมือสอง
-
ลงทุนคอนโดให้เช่า
-
ที่ดินเกษตร
-
โฮมสเตย์/รีสอร์ท
-
บ้านพักตากอากาศ
-
ที่ดินเชิงพาณิชย์
เว็บไซต์ช่วย: ลงประกาศ, จองดูโครงการ, สร้างความน่าเชื่อถือ, เก็บข้อมูลผู้สนใจ
กลุ่มที่ 8: งานฝีมือและ DIY
-
งานไม้
-
งานเย็บผ้า/ถักโครเชต์
-
งานประดิษฐ์ของขวัญ
-
งานเรซิ่น
-
งานวาดภาพ
-
ขายของ handmade
-
งานปั้นดิน
-
เครื่องหอมทำมือ
-
สบู่แฮนด์เมด
-
เครื่องหนัง
เว็บไซต์ช่วย: แสดงผลงาน, ขายสินค้าแบบพรีออเดอร์, วิดีโอเบื้องหลังการทำ
กลุ่มที่ 9: สัตว์เลี้ยง
-
ขายอาหารสัตว์
-
ร้านตัดขนสัตว์
-
บริการรับฝากสัตว์
-
คลินิกสัตวแพทย์
-
ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง
-
เพจแมว/หมา influencer
-
ขายของ handmade สำหรับสัตว์
-
ขายเสื้อผ้าสัตว์
-
โรงแรมสัตว์เลี้ยง
-
เพาะพันธุ์สัตว์
เว็บไซต์ช่วย: ระบบจอง, อัปเดตรูปสัตว์ลูกค้า, รีวิว, โพสต์ให้ความรู้
กลุ่มที่ 10: ท่องเที่ยวและกิจกรรม
-
บริษัททัวร์
-
รับจัดกรุ๊ปทัวร์
-
รับจัดงานอีเวนต์
-
รับจัดทริปถ่ายภาพ
-
ขายแพ็กเกจท่องเที่ยว
-
รับจัดงานแต่ง
-
บริการให้เช่าอุปกรณ์ท่องเที่ยว
-
สอนดำน้ำ/ปีนเขา
-
ธุรกิจแคมป์/รีทรีต
-
บริการรับถ่ายพรีเวดดิ้ง
เว็บไซต์ช่วย: แสดงแพ็กเกจ, ระบบจอง/ชำระเงิน, รูปรีวิวลูกค้า, แผนการเดินทาง
ตัวอย่างธุรกิจที่เว็บไซต์ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง
ขายรองเท้า
ธุรกิจขายรองเท้าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มีโอกาสเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ “เว็บไซต์” เป็นเครื่องมือหลักในการขายและขยายฐานลูกค้า เว็บไซต์ไม่ได้แค่เป็นหน้าร้านออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นผู้ซื้อ และสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่าง: ธุรกิจขายรองเท้าออนไลน์ “StepOnStyle”
StepOnStyle เป็นร้านขายรองเท้าแฟชั่นที่เริ่มจากการขายผ่านโซเชียลมีเดียเท่านั้น แม้มียอดสั่งซื้อประปราย แต่เมื่อเริ่มพัฒนาเว็บไซต์อย่างจริงจัง ยอดขายกลับพุ่งสูงขึ้นภายใน 6 เดือน เพราะเว็บไซต์เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาเลือกดูสินค้าได้สะดวกตลอด 24 ชั่วโมง และยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น
สิ่งที่เว็บไซต์ช่วยธุรกิจขายรองเท้าได้จริง
-
แสดงสินค้าชัดเจน
หน้าเว็บไซต์มีหมวดหมู่รองเท้า เช่น รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง รองเท้าแตะ พร้อมรูปภาพหลายมุม ซูมดูได้ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้น -
ระบบสต็อกและชำระเงินออนไลน์
ลูกค้าสามารถเลือกไซส์และจำนวนได้แบบเรียลไทม์ พร้อมชำระเงินผ่านบัตรเครดิต โอนเงิน หรือเก็บเงินปลายทาง ซึ่งช่วยปิดการขายได้ทันที -
รีวิวจากลูกค้าเก่า
เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการโชว์รีวิวใต้สินค้า หรือหน้าแยกรีวิวที่ลูกค้าสามารถให้คะแนนความพึงพอใจ พร้อมภาพการใช้งานจริง -
SEO และบทความสร้างทราฟฟิก
เว็บไซต์ StepOnStyle ลงบทความเช่น “เลือกไซซ์รองเท้าอย่างไรไม่ให้พลาด” หรือ “5 แบบรองเท้าที่ควรมีติดตู้” ช่วยดึงคนจาก Google เข้าสู่เว็บโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาตลอดเวลา -
รองรับมือถือและโหลดเร็ว
ลูกค้ากว่า 80% เข้าจากมือถือ เว็บไซต์จึงถูกออกแบบให้รองรับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเปิดจากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตก็ยังดูสวยและใช้งานง่าย -
ระบบแชตและติดตามสถานะ
เพิ่มระบบแชตให้ลูกค้าทักสอบถามได้ทันที พร้อมระบบแจ้งเลขพัสดุอัตโนมัติหลังการสั่งซื้อ ลดภาระงานหลังบ้าน
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
หลังจากเปิดเว็บไซต์ ยอดเข้าชมเฉลี่ยต่อเดือนของ StepOnStyle เพิ่มขึ้นจาก 3,000 คนเป็นกว่า 20,000 คน การสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจาก 5–10 ออร์เดอร์ต่อวัน เป็น 30–50 ออร์เดอร์ และที่สำคัญ ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำมากขึ้นเพราะเว็บไซต์ทำให้พวกเขาจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
สรุป ธุรกิจขายรองเท้าไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแฟชั่น รองเท้าเด็ก หรือรองเท้ากีฬา หากมีเว็บไซต์ที่ออกแบบดี ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ลูกค้า เว็บไซต์จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงและยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งแต่โซเชียลมีเดียหรือการยิงแอดเพียงอย่างเดียว
บริษัททัวร์
ธุรกิจทัวร์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เว็บไซต์สามารถสร้างความได้เปรียบอย่างชัดเจน เพราะลูกค้านิยมค้นหาข้อมูลทริปผ่านออนไลน์ก่อนตัดสินใจเดินทาง หากบริษัททัวร์มีเว็บไซต์ที่ดี ก็สามารถปิดการขายได้ตั้งแต่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ครั้งแรก
1. สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์มืออาชีพ
เว็บไซต์ที่มีรายละเอียดชัดเจน เช่น ข้อมูลบริษัท ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ภาพพนักงานหรือมัคคุเทศก์ รีวิวจากลูกค้า และช่องทางติดต่อที่ครบถ้วน ทำให้ลูกค้ามั่นใจและตัดสินใจง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัท ABC Travel มีหน้า “เกี่ยวกับเรา” ที่แสดงภาพทีมงานและใบอนุญาตชัดเจน ทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจแม้ยังไม่เคยใช้บริการมาก่อน
2. แสดงแพ็กเกจทัวร์ได้หลากหลาย
บริษัททัวร์สามารถจัดหมวดหมู่แพ็กเกจ เช่น ทัวร์ในประเทศ ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์เฉพาะกลุ่ม หรือทัวร์แบบส่วนตัว พร้อมรายละเอียด เช่น โปรแกรมเดินทาง โรงแรม อาหาร จุดแวะเที่ยว และราคาชัดเจน เช่น บริษัท Happy Journey ใช้เว็บไซต์แสดงแพ็กเกจพร้อมไฮไลต์จุดเด่นของแต่ละทัวร์ ทำให้ลูกค้าเปรียบเทียบและเลือกแพ็กเกจได้สะดวก
3. เปิดให้จองและชำระเงินออนไลน์
ลูกค้าสามารถจองทัวร์ได้ทันทีผ่านระบบจองบนเว็บไซต์ โดยกรอกชื่อผู้เดินทาง เลือกวันเดินทาง และชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือโอนเงินได้เลย เช่น บริษัท GoTravel มีระบบจองแบบ real-time ที่แสดงจำนวนที่นั่งคงเหลือ ลดโอกาสที่ลูกค้าจะลังเลหรือไปซื้อจากเจ้าอื่น
4. ใช้ SEO และบทความดึงคนเข้าเว็บ
การเขียนบทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำฤดูกาลท่องเที่ยว หรือเคล็ดลับเดินทาง เช่น “10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว” หรือ “วิธีเตรียมตัวไปเกาหลีครั้งแรก” ช่วยให้คนเสิร์ช Google แล้วเจอเว็บไซต์บริษัททัวร์ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัท ThaiTrip Blog ได้รับคนเข้าเว็บไซต์หลายหมื่นคนต่อเดือนจากการเขียนบทความท่องเที่ยว และสามารถแปลงยอดผู้ชมเป็นลูกค้าจองทัวร์ได้จริง
5. เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย
เว็บไซต์ที่มีปุ่มแชร์หรือปุ่มจองผ่าน Facebook, Line หรือ Instagram ทำให้ลูกค้าส่งต่อข้อมูลไปยังเพื่อนได้ง่าย หรือใช้ chatbot เชื่อมกับเว็บไซต์ก็ช่วยให้ลูกค้าสอบถามรายละเอียดแบบทันที ตัวอย่างเช่น บริษัท Green Tour มีปุ่ม “สอบถามผ่าน Line” ที่หน้าแพ็กเกจ ช่วยให้ทีมขายตอบคำถามและปิดยอดได้เร็วขึ้น
6. สร้างฐานลูกค้าและส่งโปรโมชั่นซ้ำได้
เว็บไซต์สามารถให้ลูกค้าลงทะเบียนรับข่าวสารหรือสมัครสมาชิก เมื่อมีโปรโมชั่นพิเศษ ทริปใหม่ หรือส่วนลด ก็สามารถส่งอีเมลไปถึงลูกค้าเก่าได้ทันที ช่วยกระตุ้นการกลับมาใช้บริการซ้ำ เช่น บริษัท SmartTrip เก็บรายชื่อลูกค้าผ่านฟอร์มสมัครสมาชิก และใช้ระบบอีเมลอัตโนมัติแจ้งโปรใหม่ทุกเดือน
สรุป บริษัททัวร์ที่มีเว็บไซต์คุณภาพดีไม่เพียงแค่ดูน่าเชื่อถือ แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือขายที่ทรงพลัง ทั้งในด้านการแสดงแพ็กเกจ การจองออนไลน์ และการทำการตลาดในระยะยาว เว็บไซต์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน
ร้านตัดขนสัตว์
ร้านตัดขนสัตว์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองที่มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ใส่ใจเรื่องความสะอาด สุขภาพ และความน่ารักของสัตว์ จึงยินดีจ่ายเงินกับบริการตัดขน อาบน้ำ หรือดูแลขนอย่างมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม หากร้านไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ โอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ๆ ก็จะลดลงอย่างมาก
การมีเว็บไซต์สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านตัดขนสัตว์ได้จริงในหลายด้าน เช่น
1. แสดงบริการและราคาอย่างชัดเจน
เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจพาสัตว์ไปใช้บริการ เว็บไซต์ที่แสดงรายการบริการ เช่น อาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บ ทำความสะอาดหู พร้อมราคาที่ชัดเจน จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและกล้าติดต่อเข้ามามากขึ้น
2. ระบบจองคิวออนไลน์ช่วยลดงานหน้าร้าน
เว็บไซต์ที่มีระบบจองคิวออนไลน์สามารถช่วยลดความวุ่นวายหน้าร้าน ลูกค้าสามารถเลือกวัน เวลา และบริการที่ต้องการล่วงหน้า ทำให้ร้านวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจไปหาร้านอื่น
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยรีวิวและรูปผลงาน
ลูกค้าส่วนใหญ่มักตัดสินใจจากรีวิวของลูกค้าคนอื่น เว็บไซต์ที่แสดงรูปภาพผลงานก่อน-หลังตัดขน พร้อมรีวิวจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงจริง จะช่วยสร้างความมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
4. ดึงดูดลูกค้าผ่านการทำ SEO
หากเว็บไซต์มีบทความเกี่ยวกับการดูแลขนสัตว์ การเลือกแชมพู หรือเทคนิคการดูแลสุขภาพสัตว์ ก็จะมีโอกาสติดอันดับใน Google เมื่อเจ้าของสัตว์ค้นหาข้อมูลเหล่านี้ ส่งผลให้ร้านของคุณถูกค้นพบง่ายขึ้น และดึงลูกค้าใหม่ได้โดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณา
5. เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ
เว็บไซต์สามารถเป็นจุดเชื่อมต่อไปยัง Facebook, Instagram หรือ LINE OA ของร้าน เพื่อให้ลูกค้าติดตามโปรโมชั่นหรือสอบถามเพิ่มเติมได้สะดวกขึ้น เพิ่มโอกาสในการปิดการขายผ่านหลายช่องทาง
ตัวอย่างร้านที่ประสบความสำเร็จจากการมีเว็บไซต์
ร้าน “PawCut Studio” เริ่มต้นจากการเปิดเพจ Facebook แต่เมื่อเพิ่มเว็บไซต์ที่มีระบบจองคิว รีวิวจากลูกค้า และแกลเลอรีผลงาน ยอดจองผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 40% ใน 3 เดือน และยังมีลูกค้ามาจากการค้นหาผ่าน Google มากกว่าจากโซเชียลอีกด้วย
สรุป เว็บไซต์เป็นมากกว่านามบัตรออนไลน์สำหรับร้านตัดขนสัตว์ แต่เป็นเครื่องมือเพิ่มยอดขาย เพิ่มความน่าเชื่อถือ และขยายฐานลูกค้าได้จริง หากคุณยังไม่มีเว็บไซต์สำหรับร้านของคุณ นี่คือเวลาที่ควรเริ่มต้นแล้ว
นายหน้าอสังหาริมทรัพย์
ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นหนึ่งในสายงานที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือสูง การแข่งขันในตลาดก็เข้มข้น และการปิดการขายก็ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของลูกค้าเป็นหลัก ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น และสร้างโอกาสในการขายมากขึ้นคือ “เว็บไซต์” ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งแคตตาล็อกสินทรัพย์ พื้นที่สร้างความน่าเชื่อถือ และเครื่องมือการตลาดที่สำคัญ
เว็บไซต์ช่วยธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อย่างไร
-
แสดงรายการทรัพย์อย่างมืออาชีพ
เว็บไซต์ที่ออกแบบดีสามารถแสดงข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างครบถ้วน เช่น รูปภาพ แผนที่ ราคา ขนาดพื้นที่ และจุดเด่นของทรัพย์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าคัดกรองเบื้องต้นและเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะติดต่อเข้ามาอย่างมีคุณภาพ -
สร้างความน่าเชื่อถือ
การมีเว็บไซต์ของตัวเองแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ แตกต่างจากการโพสต์ขายผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลเพียงอย่างเดียว เว็บไซต์สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวแทน ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท รีวิวจากลูกค้าเดิม และเคสการขายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ไว้ใจได้ -
รองรับการค้นหา SEO
เว็บไซต์สามารถทำ SEO เพื่อให้ทรัพย์ที่คุณลงขายติดหน้าแรก Google เช่น คนเสิร์ชว่า “ขายบ้านมือสอง นนทบุรี” แล้วเจอเว็บไซต์คุณก่อน เพิ่มโอกาสการติดต่อจากลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน -
ระบบกรองลูกค้าและเก็บข้อมูลอัตโนมัติ
สามารถติดตั้งฟอร์มให้ลูกค้ากรอกความต้องการ เช่น ต้องการซื้อบ้านแถวไหน งบประมาณเท่าไหร่ ระบบสามารถเก็บข้อมูลไว้ใช้ต่อยอดการขายในอนาคตได้ หรือใช้ในการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม -
เครื่องมือจองและติดต่อล่วงหน้า
ลูกค้าสามารถจองเวลานัดดูบ้านผ่านระบบออนไลน์ ลดเวลาการประสานงาน โทรศัพท์ หรือไลน์ไปมา นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมกับ LINE OA หรือระบบแชตเพื่อพูดคุยได้ทันที
ตัวอย่างการใช้เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ
กรณีศึกษา: นายหน้าอสังหาฯ “คุณปัท”
คุณปัทเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มต้นจากการโพสต์บ้านลงในกลุ่ม Facebook เธอใช้เวลาและพลังงานไปกับการตอบแชตลูกค้าที่บางครั้งก็ไม่จริงจัง จนเธอตัดสินใจสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง โดยลงข้อมูลบ้านพร้อมภาพมืออาชีพ แผนที่ Google Maps และทำระบบค้นหาทรัพย์ตามงบและทำเล
ภายใน 6 เดือน เว็บไซต์ของเธอเริ่มติด Google และได้รับลูกค้าที่ตั้งใจซื้อจริงเข้ามาทุกสัปดาห์ ยอดขายต่อเดือนเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเธอยังเริ่มรับอสังหาริมทรัพย์จากเจ้าของที่ต้องการฝากขายผ่านเว็บไซต์ของเธอโดยตรง กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ 2 ทาง คือ ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการสร้างเว็บไซต์ให้ขายได้
-
ใช้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพและถ่ายในแสงธรรมชาติ
-
เขียนคำอธิบายทรัพย์ให้น่าสนใจ เช่น ระบุจุดเด่นของทำเล การเดินทางสะดวก
-
แสดงเบอร์ติดต่อหรือแชตออนไลน์ให้หาง่ายทุกหน้า
-
อัปเดตข้อมูลทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ
-
ทำบทความเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น “5 ทำเลทองน่าซื้อปีนี้” เพื่อดึงผู้ชมเข้าสู่เว็บไซต์
สรุป ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในยุคปัจจุบันไม่สามารถพึ่งพาแค่โซเชียลมีเดียได้เพียงอย่างเดียว เว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คุณดูน่าเชื่อถือ ขยายฐานลูกค้า และปิดการขายได้อย่างเป็นระบบ หากคุณลงทุนเวลาและทรัพยากรในการสร้างเว็บไซต์ที่ดี ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจะยั่งยืนและวัดผลได้จริง
บทสรุป
เว็บไซต์ไม่ใช่แค่ “ต้องมี” แต่เป็น “หัวใจ” ของการทำธุรกิจในยุคนี้ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้า บริการ หรือความรู้ เว็บไซต์ที่ออกแบบดีและสื่อสารชัดเจน สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า และลูกค้าเก่าให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้ง่ายๆ