100 ธุรกิจน่าทำ ที่เว็บไซต์ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง

ในยุคที่ผู้บริโภคเสิร์ชหาเกือบทุกอย่างผ่าน Google และโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์จึงไม่ใช่แค่หน้าร้านออนไลน์ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มยอดขาย สร้างความน่าเชื่อถือ และขยายตลาดอย่างไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ หรือกำลังวางแผนขยายกิจการ นี่คือ 100 ธุรกิจที่การมีเว็บไซต์ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง พร้อมแนวทางการใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กลุ่มที่ 1: สินค้าแฟชั่นและความงาม

  1. ขายเสื้อผ้าแฟชั่น

  2. ขายรองเท้า

  3. ขายกระเป๋า

  4. ขายเครื่องประดับ

  5. ขายเครื่องสำอาง

  6. ร้านทำผม

  7. คลินิกเสริมความงาม

  8. ร้านทำเล็บ

  9. สปา

  10. ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว/สมุนไพร

เว็บไซต์ช่วย: แสดงสินค้า, จองคิวออนไลน์, รีวิวจากลูกค้า, ระบบชำระเงิน

กลุ่มที่ 2: อาหารและเครื่องดื่ม

  1. ร้านอาหาร

  2. คาเฟ่

  3. ร้านเบเกอรี่

  4. ร้านชานม/กาแฟ

  5. ขายอาหารคลีน

  6. ขายอาหารแช่แข็ง

  7. รับจัดเลี้ยง

  8. ขายขนมของฝาก

  9. ธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร

  10. ขายวัตถุดิบอาหาร

เว็บไซต์ช่วย: เมนูออนไลน์, สั่งจองล่วงหน้า, รับออร์เดอร์จากต่างจังหวัด, ระบบแผนที่ร้าน

กลุ่มที่ 3: ธุรกิจการศึกษา

  1. ติวเตอร์ออนไลน์

  2. สอนภาษา

  3. โรงเรียนกวดวิชา

  4. คอร์สเรียนออนไลน์

  5. โรงเรียนสอนพิเศษ

  6. ครูดนตรี

  7. โรงเรียนสอนศิลปะ

  8. คอร์สสอนเขียนโปรแกรม

  9. สอนทำอาหาร

  10. สอนธุรกิจหรือการตลาด

เว็บไซต์ช่วย: แสดงคอร์สเรียน, สมัครเรียน, ระบบเรียนออนไลน์, รีวิวจากนักเรียน

กลุ่มที่ 4: งานบริการ

  1. บริการรับทำบัญชี

  2. บริการออกแบบโลโก้

  3. ช่างภาพ/วีดีโอ

  4. ออกแบบภายใน

  5. บริการแปลภาษา

  6. บริการจัดสวน

  7. บริการรับทำเว็บไซต์

  8. บริการดูแลโซเชียลมีเดีย

  9. บริการทำความสะอาด

  10. บริการขนส่ง/ส่งของ

เว็บไซต์ช่วย: ให้ลูกค้าเช็คราคา, ติดต่อสอบถาม, รับใบเสนอราคา, จองคิวบริการ

กลุ่มที่ 5: ธุรกิจออนไลน์และดิจิทัล

  1. ขายของออนไลน์

  2. ขายของในตลาดต่างประเทศ

  3. ขายอีบุ๊ก

  4. ขายเทมเพลต/ไฟล์ดิจิทัล

  5. ขายภาพถ่าย/วิดีโอ

  6. ให้เช่าเซิร์ฟเวอร์/โฮสติ้ง

  7. สร้างแอปพลิเคชัน

  8. ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์

  9. Dropshipping

  10. Affiliate Marketing

เว็บไซต์ช่วย: เป็นหน้าร้าน, SEO, เชื่อมต่อการตลาด, จับข้อมูลลูกค้า

กลุ่มที่ 6: สุขภาพและฟิตเนส

  1. โค้ชฟิตเนส

  2. คลินิกกายภาพ

  3. คลินิกฝังเข็ม

  4. ขายอุปกรณ์ออกกำลังกาย

  5. ขายอาหารเสริม

  6. สอนโยคะ/พิลาทิส

  7. สปาเพื่อสุขภาพ

  8. ร้านสมุนไพร

  9. บริการเทรนสุขภาพ

  10. คอร์สลดน้ำหนัก

เว็บไซต์ช่วย: ให้ข้อมูลบริการ, ลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม, แสดงผลลัพธ์รีวิว

กลุ่มที่ 7: อสังหาริมทรัพย์และการลงทุน

  1. นายหน้าอสังหาริมทรัพย์

  2. โครงการบ้านจัดสรร

  3. ที่ปรึกษาการเงิน

  4. บริการประกันภัย

  5. ขายบ้านมือสอง

  6. ลงทุนคอนโดให้เช่า

  7. ที่ดินเกษตร

  8. โฮมสเตย์/รีสอร์ท

  9. บ้านพักตากอากาศ

  10. ที่ดินเชิงพาณิชย์

เว็บไซต์ช่วย: ลงประกาศ, จองดูโครงการ, สร้างความน่าเชื่อถือ, เก็บข้อมูลผู้สนใจ

กลุ่มที่ 8: งานฝีมือและ DIY

  1. งานไม้

  2. งานเย็บผ้า/ถักโครเชต์

  3. งานประดิษฐ์ของขวัญ

  4. งานเรซิ่น

  5. งานวาดภาพ

  6. ขายของ handmade

  7. งานปั้นดิน

  8. เครื่องหอมทำมือ

  9. สบู่แฮนด์เมด

  10. เครื่องหนัง

เว็บไซต์ช่วย: แสดงผลงาน, ขายสินค้าแบบพรีออเดอร์, วิดีโอเบื้องหลังการทำ

กลุ่มที่ 9: สัตว์เลี้ยง

  1. ขายอาหารสัตว์

  2. ร้านตัดขนสัตว์

  3. บริการรับฝากสัตว์

  4. คลินิกสัตวแพทย์

  5. ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง

  6. เพจแมว/หมา influencer

  7. ขายของ handmade สำหรับสัตว์

  8. ขายเสื้อผ้าสัตว์

  9. โรงแรมสัตว์เลี้ยง

  10. เพาะพันธุ์สัตว์

เว็บไซต์ช่วย: ระบบจอง, อัปเดตรูปสัตว์ลูกค้า, รีวิว, โพสต์ให้ความรู้

กลุ่มที่ 10: ท่องเที่ยวและกิจกรรม

  1. บริษัททัวร์

  2. รับจัดกรุ๊ปทัวร์

  3. รับจัดงานอีเวนต์

  4. รับจัดทริปถ่ายภาพ

  5. ขายแพ็กเกจท่องเที่ยว

  6. รับจัดงานแต่ง

  7. บริการให้เช่าอุปกรณ์ท่องเที่ยว

  8. สอนดำน้ำ/ปีนเขา

  9. ธุรกิจแคมป์/รีทรีต

  10. บริการรับถ่ายพรีเวดดิ้ง

เว็บไซต์ช่วย: แสดงแพ็กเกจ, ระบบจอง/ชำระเงิน, รูปรีวิวลูกค้า, แผนการเดินทาง

ตัวอย่างธุรกิจที่เว็บไซต์ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง

ขายรองเท้า

ธุรกิจขายรองเท้าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มีโอกาสเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ “เว็บไซต์” เป็นเครื่องมือหลักในการขายและขยายฐานลูกค้า เว็บไซต์ไม่ได้แค่เป็นหน้าร้านออนไลน์เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นผู้ซื้อ และสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่าง: ธุรกิจขายรองเท้าออนไลน์ “StepOnStyle”

StepOnStyle เป็นร้านขายรองเท้าแฟชั่นที่เริ่มจากการขายผ่านโซเชียลมีเดียเท่านั้น แม้มียอดสั่งซื้อประปราย แต่เมื่อเริ่มพัฒนาเว็บไซต์อย่างจริงจัง ยอดขายกลับพุ่งสูงขึ้นภายใน 6 เดือน เพราะเว็บไซต์เปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาเลือกดูสินค้าได้สะดวกตลอด 24 ชั่วโมง และยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น

สิ่งที่เว็บไซต์ช่วยธุรกิจขายรองเท้าได้จริง

  1. แสดงสินค้าชัดเจน
    หน้าเว็บไซต์มีหมวดหมู่รองเท้า เช่น รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง รองเท้าแตะ พร้อมรูปภาพหลายมุม ซูมดูได้ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้น

  2. ระบบสต็อกและชำระเงินออนไลน์
    ลูกค้าสามารถเลือกไซส์และจำนวนได้แบบเรียลไทม์ พร้อมชำระเงินผ่านบัตรเครดิต โอนเงิน หรือเก็บเงินปลายทาง ซึ่งช่วยปิดการขายได้ทันที

  3. รีวิวจากลูกค้าเก่า
    เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการโชว์รีวิวใต้สินค้า หรือหน้าแยกรีวิวที่ลูกค้าสามารถให้คะแนนความพึงพอใจ พร้อมภาพการใช้งานจริง

  4. SEO และบทความสร้างทราฟฟิก
    เว็บไซต์ StepOnStyle ลงบทความเช่น “เลือกไซซ์รองเท้าอย่างไรไม่ให้พลาด” หรือ “5 แบบรองเท้าที่ควรมีติดตู้” ช่วยดึงคนจาก Google เข้าสู่เว็บโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาตลอดเวลา

  5. รองรับมือถือและโหลดเร็ว
    ลูกค้ากว่า 80% เข้าจากมือถือ เว็บไซต์จึงถูกออกแบบให้รองรับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเปิดจากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตก็ยังดูสวยและใช้งานง่าย

  6. ระบบแชตและติดตามสถานะ
    เพิ่มระบบแชตให้ลูกค้าทักสอบถามได้ทันที พร้อมระบบแจ้งเลขพัสดุอัตโนมัติหลังการสั่งซื้อ ลดภาระงานหลังบ้าน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

หลังจากเปิดเว็บไซต์ ยอดเข้าชมเฉลี่ยต่อเดือนของ StepOnStyle เพิ่มขึ้นจาก 3,000 คนเป็นกว่า 20,000 คน การสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจาก 5–10 ออร์เดอร์ต่อวัน เป็น 30–50 ออร์เดอร์ และที่สำคัญ ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำมากขึ้นเพราะเว็บไซต์ทำให้พวกเขาจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

สรุป ธุรกิจขายรองเท้าไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแฟชั่น รองเท้าเด็ก หรือรองเท้ากีฬา หากมีเว็บไซต์ที่ออกแบบดี ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ลูกค้า เว็บไซต์จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงและยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งแต่โซเชียลมีเดียหรือการยิงแอดเพียงอย่างเดียว

บริษัททัวร์

ธุรกิจทัวร์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เว็บไซต์สามารถสร้างความได้เปรียบอย่างชัดเจน เพราะลูกค้านิยมค้นหาข้อมูลทริปผ่านออนไลน์ก่อนตัดสินใจเดินทาง หากบริษัททัวร์มีเว็บไซต์ที่ดี ก็สามารถปิดการขายได้ตั้งแต่ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ครั้งแรก

1. สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์มืออาชีพ

เว็บไซต์ที่มีรายละเอียดชัดเจน เช่น ข้อมูลบริษัท ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ภาพพนักงานหรือมัคคุเทศก์ รีวิวจากลูกค้า และช่องทางติดต่อที่ครบถ้วน ทำให้ลูกค้ามั่นใจและตัดสินใจง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัท ABC Travel มีหน้า “เกี่ยวกับเรา” ที่แสดงภาพทีมงานและใบอนุญาตชัดเจน ทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจแม้ยังไม่เคยใช้บริการมาก่อน

2. แสดงแพ็กเกจทัวร์ได้หลากหลาย

บริษัททัวร์สามารถจัดหมวดหมู่แพ็กเกจ เช่น ทัวร์ในประเทศ ทัวร์ต่างประเทศ ทัวร์เฉพาะกลุ่ม หรือทัวร์แบบส่วนตัว พร้อมรายละเอียด เช่น โปรแกรมเดินทาง โรงแรม อาหาร จุดแวะเที่ยว และราคาชัดเจน เช่น บริษัท Happy Journey ใช้เว็บไซต์แสดงแพ็กเกจพร้อมไฮไลต์จุดเด่นของแต่ละทัวร์ ทำให้ลูกค้าเปรียบเทียบและเลือกแพ็กเกจได้สะดวก

3. เปิดให้จองและชำระเงินออนไลน์

ลูกค้าสามารถจองทัวร์ได้ทันทีผ่านระบบจองบนเว็บไซต์ โดยกรอกชื่อผู้เดินทาง เลือกวันเดินทาง และชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือโอนเงินได้เลย เช่น บริษัท GoTravel มีระบบจองแบบ real-time ที่แสดงจำนวนที่นั่งคงเหลือ ลดโอกาสที่ลูกค้าจะลังเลหรือไปซื้อจากเจ้าอื่น

4. ใช้ SEO และบทความดึงคนเข้าเว็บ

การเขียนบทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำฤดูกาลท่องเที่ยว หรือเคล็ดลับเดินทาง เช่น “10 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว” หรือ “วิธีเตรียมตัวไปเกาหลีครั้งแรก” ช่วยให้คนเสิร์ช Google แล้วเจอเว็บไซต์บริษัททัวร์ได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัท ThaiTrip Blog ได้รับคนเข้าเว็บไซต์หลายหมื่นคนต่อเดือนจากการเขียนบทความท่องเที่ยว และสามารถแปลงยอดผู้ชมเป็นลูกค้าจองทัวร์ได้จริง

5. เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย

เว็บไซต์ที่มีปุ่มแชร์หรือปุ่มจองผ่าน Facebook, Line หรือ Instagram ทำให้ลูกค้าส่งต่อข้อมูลไปยังเพื่อนได้ง่าย หรือใช้ chatbot เชื่อมกับเว็บไซต์ก็ช่วยให้ลูกค้าสอบถามรายละเอียดแบบทันที ตัวอย่างเช่น บริษัท Green Tour มีปุ่ม “สอบถามผ่าน Line” ที่หน้าแพ็กเกจ ช่วยให้ทีมขายตอบคำถามและปิดยอดได้เร็วขึ้น

6. สร้างฐานลูกค้าและส่งโปรโมชั่นซ้ำได้

เว็บไซต์สามารถให้ลูกค้าลงทะเบียนรับข่าวสารหรือสมัครสมาชิก เมื่อมีโปรโมชั่นพิเศษ ทริปใหม่ หรือส่วนลด ก็สามารถส่งอีเมลไปถึงลูกค้าเก่าได้ทันที ช่วยกระตุ้นการกลับมาใช้บริการซ้ำ เช่น บริษัท SmartTrip เก็บรายชื่อลูกค้าผ่านฟอร์มสมัครสมาชิก และใช้ระบบอีเมลอัตโนมัติแจ้งโปรใหม่ทุกเดือน

สรุป บริษัททัวร์ที่มีเว็บไซต์คุณภาพดีไม่เพียงแค่ดูน่าเชื่อถือ แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือขายที่ทรงพลัง ทั้งในด้านการแสดงแพ็กเกจ การจองออนไลน์ และการทำการตลาดในระยะยาว เว็บไซต์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

ร้านตัดขนสัตว์

ร้านตัดขนสัตว์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองที่มีเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมาก เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่ใส่ใจเรื่องความสะอาด สุขภาพ และความน่ารักของสัตว์ จึงยินดีจ่ายเงินกับบริการตัดขน อาบน้ำ หรือดูแลขนอย่างมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม หากร้านไม่มีตัวตนบนโลกออนไลน์ โอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ๆ ก็จะลดลงอย่างมาก

การมีเว็บไซต์สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้านตัดขนสัตว์ได้จริงในหลายด้าน เช่น

1. แสดงบริการและราคาอย่างชัดเจน
เจ้าของสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจพาสัตว์ไปใช้บริการ เว็บไซต์ที่แสดงรายการบริการ เช่น อาบน้ำ ตัดขน ตัดเล็บ ทำความสะอาดหู พร้อมราคาที่ชัดเจน จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและกล้าติดต่อเข้ามามากขึ้น

2. ระบบจองคิวออนไลน์ช่วยลดงานหน้าร้าน
เว็บไซต์ที่มีระบบจองคิวออนไลน์สามารถช่วยลดความวุ่นวายหน้าร้าน ลูกค้าสามารถเลือกวัน เวลา และบริการที่ต้องการล่วงหน้า ทำให้ร้านวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจไปหาร้านอื่น

3. เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยรีวิวและรูปผลงาน
ลูกค้าส่วนใหญ่มักตัดสินใจจากรีวิวของลูกค้าคนอื่น เว็บไซต์ที่แสดงรูปภาพผลงานก่อน-หลังตัดขน พร้อมรีวิวจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงจริง จะช่วยสร้างความมั่นใจและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น

4. ดึงดูดลูกค้าผ่านการทำ SEO
หากเว็บไซต์มีบทความเกี่ยวกับการดูแลขนสัตว์ การเลือกแชมพู หรือเทคนิคการดูแลสุขภาพสัตว์ ก็จะมีโอกาสติดอันดับใน Google เมื่อเจ้าของสัตว์ค้นหาข้อมูลเหล่านี้ ส่งผลให้ร้านของคุณถูกค้นพบง่ายขึ้น และดึงลูกค้าใหม่ได้โดยไม่ต้องเสียเงินโฆษณา

5. เชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ
เว็บไซต์สามารถเป็นจุดเชื่อมต่อไปยัง Facebook, Instagram หรือ LINE OA ของร้าน เพื่อให้ลูกค้าติดตามโปรโมชั่นหรือสอบถามเพิ่มเติมได้สะดวกขึ้น เพิ่มโอกาสในการปิดการขายผ่านหลายช่องทาง

ตัวอย่างร้านที่ประสบความสำเร็จจากการมีเว็บไซต์
ร้าน “PawCut Studio” เริ่มต้นจากการเปิดเพจ Facebook แต่เมื่อเพิ่มเว็บไซต์ที่มีระบบจองคิว รีวิวจากลูกค้า และแกลเลอรีผลงาน ยอดจองผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้น 40% ใน 3 เดือน และยังมีลูกค้ามาจากการค้นหาผ่าน Google มากกว่าจากโซเชียลอีกด้วย

สรุป เว็บไซต์เป็นมากกว่านามบัตรออนไลน์สำหรับร้านตัดขนสัตว์ แต่เป็นเครื่องมือเพิ่มยอดขาย เพิ่มความน่าเชื่อถือ และขยายฐานลูกค้าได้จริง หากคุณยังไม่มีเว็บไซต์สำหรับร้านของคุณ นี่คือเวลาที่ควรเริ่มต้นแล้ว

 

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์

ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นหนึ่งในสายงานที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือสูง การแข่งขันในตลาดก็เข้มข้น และการปิดการขายก็ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของลูกค้าเป็นหลัก ปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น และสร้างโอกาสในการขายมากขึ้นคือ “เว็บไซต์” ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งแคตตาล็อกสินทรัพย์ พื้นที่สร้างความน่าเชื่อถือ และเครื่องมือการตลาดที่สำคัญ

เว็บไซต์ช่วยธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์อย่างไร

  1. แสดงรายการทรัพย์อย่างมืออาชีพ
    เว็บไซต์ที่ออกแบบดีสามารถแสดงข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างครบถ้วน เช่น รูปภาพ แผนที่ ราคา ขนาดพื้นที่ และจุดเด่นของทรัพย์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าคัดกรองเบื้องต้นและเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะติดต่อเข้ามาอย่างมีคุณภาพ

  2. สร้างความน่าเชื่อถือ
    การมีเว็บไซต์ของตัวเองแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ แตกต่างจากการโพสต์ขายผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลเพียงอย่างเดียว เว็บไซต์สามารถใส่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวแทน ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท รีวิวจากลูกค้าเดิม และเคสการขายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ไว้ใจได้

  3. รองรับการค้นหา SEO
    เว็บไซต์สามารถทำ SEO เพื่อให้ทรัพย์ที่คุณลงขายติดหน้าแรก Google เช่น คนเสิร์ชว่า “ขายบ้านมือสอง นนทบุรี” แล้วเจอเว็บไซต์คุณก่อน เพิ่มโอกาสการติดต่อจากลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน

  4. ระบบกรองลูกค้าและเก็บข้อมูลอัตโนมัติ
    สามารถติดตั้งฟอร์มให้ลูกค้ากรอกความต้องการ เช่น ต้องการซื้อบ้านแถวไหน งบประมาณเท่าไหร่ ระบบสามารถเก็บข้อมูลไว้ใช้ต่อยอดการขายในอนาคตได้ หรือใช้ในการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม

  5. เครื่องมือจองและติดต่อล่วงหน้า
    ลูกค้าสามารถจองเวลานัดดูบ้านผ่านระบบออนไลน์ ลดเวลาการประสานงาน โทรศัพท์ หรือไลน์ไปมา นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมกับ LINE OA หรือระบบแชตเพื่อพูดคุยได้ทันที

ตัวอย่างการใช้เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ

กรณีศึกษา: นายหน้าอสังหาฯ “คุณปัท”

คุณปัทเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มต้นจากการโพสต์บ้านลงในกลุ่ม Facebook เธอใช้เวลาและพลังงานไปกับการตอบแชตลูกค้าที่บางครั้งก็ไม่จริงจัง จนเธอตัดสินใจสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง โดยลงข้อมูลบ้านพร้อมภาพมืออาชีพ แผนที่ Google Maps และทำระบบค้นหาทรัพย์ตามงบและทำเล

ภายใน 6 เดือน เว็บไซต์ของเธอเริ่มติด Google และได้รับลูกค้าที่ตั้งใจซื้อจริงเข้ามาทุกสัปดาห์ ยอดขายต่อเดือนเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเธอยังเริ่มรับอสังหาริมทรัพย์จากเจ้าของที่ต้องการฝากขายผ่านเว็บไซต์ของเธอโดยตรง กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ 2 ทาง คือ ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการสร้างเว็บไซต์ให้ขายได้

  • ใช้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพและถ่ายในแสงธรรมชาติ

  • เขียนคำอธิบายทรัพย์ให้น่าสนใจ เช่น ระบุจุดเด่นของทำเล การเดินทางสะดวก

  • แสดงเบอร์ติดต่อหรือแชตออนไลน์ให้หาง่ายทุกหน้า

  • อัปเดตข้อมูลทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ

  • ทำบทความเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เช่น “5 ทำเลทองน่าซื้อปีนี้” เพื่อดึงผู้ชมเข้าสู่เว็บไซต์

สรุป ธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในยุคปัจจุบันไม่สามารถพึ่งพาแค่โซเชียลมีเดียได้เพียงอย่างเดียว เว็บไซต์เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คุณดูน่าเชื่อถือ ขยายฐานลูกค้า และปิดการขายได้อย่างเป็นระบบ หากคุณลงทุนเวลาและทรัพยากรในการสร้างเว็บไซต์ที่ดี ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจะยั่งยืนและวัดผลได้จริง

 

บทสรุป

เว็บไซต์ไม่ใช่แค่ “ต้องมี” แต่เป็น “หัวใจ” ของการทำธุรกิจในยุคนี้ ไม่ว่าคุณจะขายสินค้า บริการ หรือความรู้ เว็บไซต์ที่ออกแบบดีและสื่อสารชัดเจน สามารถเปลี่ยนผู้เข้าชมให้เป็นลูกค้า และลูกค้าเก่าให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้ง่ายๆ

รับทำเว็บไซต์ธุรกิจ