เริ่มต้นทำเว็บไซต์ธุรกิจ ต้องเตรียมงบประมาณเท่าไหร่?

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจทุกประเภทต่างมุ่งสู่โลกออนไลน์ การมี เว็บไซต์ธุรกิจ เปรียบเสมือนหน้าร้านที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น และเพิ่มโอกาสในการขาย แต่คำถามที่ผู้ประกอบการหลายคนสงสัยคือ “เริ่มต้นทำเว็บไซต์ธุรกิจ ต้องเตรียมงบประมาณเท่าไหร่?” บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์ พร้อมแนะนำแนวทางสำหรับธุรกิจ SME ในประเทศไทย

ทำไมธุรกิจของคุณถึงต้องมีเว็บไซต์?

ก่อนจะพูดถึงเรื่องงบประมาณ ลองมาทบทวนกันว่าทำไมเว็บไซต์ถึงมีความสำคัญต่อธุรกิจในปัจจุบัน:

  • สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์มืออาชีพ: เว็บไซต์ที่ออกแบบอย่างดีจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ ทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและพร้อมที่จะใช้บริการหรือซื้อสินค้า
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วโลก: เว็บไซต์ทำให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงลูกค้าได้ไม่จำกัดแค่พื้นที่ทางกายภาพ แต่สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง
  • เป็นช่องทางข้อมูลและบริการหลัก: ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า บริการ ติดต่อสอบถาม หรือแม้กระทั่งสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ได้โดยตรง
  • เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง: เว็บไซต์เป็นฐานสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น SEO (Search Engine Optimization), Google Ads, หรือ Social Media Marketing
  • เก็บข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์พฤติกรรม: เว็บไซต์ช่วยให้คุณสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาการสร้างเว็บไซต์

ค่าใช้จ่ายในการสร้างเว็บไซต์นั้นมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ไม่ต่างจากการสร้างบ้านที่ราคาจะแตกต่างกันไปตามขนาด ฟังก์ชัน และวัสดุที่เลือกใช้ โดยหลักๆ แล้ว ปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดงบประมาณที่คุณต้องเตรียม:

1. ประเภทของเว็บไซต์ (Website Type)

  • เว็บไซต์แบบหน้าเดียว (Landing Page / Single Page Website): เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจที่ต้องการนำเสนอข้อมูลสำคัญเพียงหน้าเดียว เช่น เว็บไซต์โปรโมทแคมเปญ, เว็บไซต์แนะนำตัวสินค้า/บริการ ราคาเริ่มต้นอาจอยู่ช่วง 5,000 – 30,000 บาท
  • เว็บไซต์ธุรกิจทั่วไป (Corporate Website / Brochure Website): เป็นเว็บไซต์มาตรฐานที่ประกอบด้วยหลายหน้า เช่น หน้าแรก, เกี่ยวกับเรา, สินค้า/บริการ, ติดต่อเรา เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการนำเสนอข้อมูลองค์กร สินค้า และบริการอย่างละเอียด ราคาโดยประมาณ 15,000 – 150,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนหน้าและความซับซ้อนของการออกแบบ
  • เว็บไซต์ E-commerce (Online Store): สำหรับธุรกิจที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์ มีระบบตะกร้าสินค้า ระบบชำระเงิน การจัดการสต็อกสินค้า เป็นเว็บไซต์ที่มีความซับซ้อนสูงกว่าประเภทอื่น ๆ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 – 500,000 บาท หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนสินค้า ฟังก์ชันการจัดการ และความซับซ้อนของระบบ
  • เว็บไซต์ที่มีระบบเฉพาะทาง (Custom Web Application): เช่น ระบบจองคิว, ระบบสมาชิก, เว็บไซต์ที่มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เว็บไซต์ประเภทนี้ต้องมีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดตามความต้องการของธุรกิจ ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าประเภทอื่น ๆ มาก ราคาเริ่มต้นอาจเป็นหลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท

2. ความซับซ้อนของการออกแบบและฟังก์ชัน (Design & Functionality)

  • การออกแบบ (Design):
    • Template สำเร็จรูป: หากใช้ Template ที่มีอยู่แล้วและปรับแต่งเล็กน้อย ค่าใช้จ่ายจะถูกลง เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัด ราคา Template อาจอยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพันบาท
    • Custom Design (ออกแบบเฉพาะ): การออกแบบเว็บไซต์ใหม่ทั้งหมดให้เป็นเอกลักษณ์ตาม Brand Identity ของธุรกิจ จะมีราคาสูงกว่า แต่ได้เว็บไซต์ที่ตอบโจทย์และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
  • ฟังก์ชันการทำงาน (Functionality):
    • ฟังก์ชันพื้นฐาน: เช่น ฟอร์มติดต่อ, แกลเลอรี่รูปภาพ, แผนที่ Google Map จะมีค่าใช้จ่ายไม่สูง
    • ฟังก์ชันเสริม: เช่น ระบบค้นหาสินค้า, ระบบรีวิว, แชทบอท, การเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย, การเชื่อมต่อ API กับระบบภายนอก ฟังก์ชันเหล่านี้จะเพิ่มความซับซ้อนและค่าใช้จ่าย

3. ผู้ให้บริการ (Developer/Agency)

  • ทำเอง (DIY – Do It Yourself): หากคุณมีความรู้ด้านการสร้างเว็บไซต์และมีเวลา การสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองโดยใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูปอย่าง WordPress, Wix, Squarespace, หรือ MakeWebEasy เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอาจอยู่ที่ 5,000 – 40,000 บาทต่อปี (รวมค่าโดเมน, โฮสติ้ง, Template และปลั๊กอินพื้นฐาน) แต่ต้องแลกมาด้วยเวลาเรียนรู้และลงมือทำเอง
  • ฟรีแลนซ์ (Freelancer): การจ้างฟรีแลนซ์มักจะมีราคาถูกกว่าบริษัทรับทำเว็บไซต์ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรืองานที่ไม่ซับซ้อนมากนัก ราคาอาจอยู่ระหว่าง 10,000 – 100,000 บาทต่อโปรเจกต์ ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของฟรีแลนซ์และขอบเขตงาน
  • บริษัทรับทำเว็บไซต์ (Web Agency): บริษัทมืออาชีพมักจะมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญครบวงจร ตั้งแต่นักออกแบบ, นักพัฒนา, ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ไปจนถึงการดูแลหลังบ้าน แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็มั่นใจได้ในคุณภาพและบริการหลังการขาย ราคาเริ่มต้นที่ 30,000 – 1,000,000 บาท หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของบริษัทและความซับซ้อนของโปรเจกต์

รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณา

นอกจากปัจจัยหลักข้างต้นแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่นๆ ที่คุณต้องนำมาพิจารณาในการตั้งงบประมาณ:

1. ค่าโดเมนเนม (Domain Name)

โดเมนเนม คือชื่อเว็บไซต์ของคุณ เช่น yourbusiness.com เป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะจำได้และพิมพ์เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ

  • ราคา: ประมาณ 300 – 1,500 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับนามสกุลโดเมน (.com, .co.th, .net, .org, etc.) และผู้ให้บริการ
  • คำแนะนำ: ควรเลือกชื่อโดเมนที่สั้น กระชับ จดจำง่าย และสื่อถึงธุรกิจของคุณ

2. ค่าโฮสติ้ง (Web Hosting)

โฮสติ้ง คือพื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์สำหรับเก็บข้อมูลทั้งหมดของเว็บไซต์ (รูปภาพ, ข้อความ, ไฟล์ต่างๆ) เพื่อให้เว็บไซต์สามารถออนไลน์และเข้าถึงได้

  • ราคา:
    • Shared Hosting: เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กถึงกลาง ราคาประมาณ 500 – 5,000 บาทต่อปี เป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุด
    • VPS Hosting/Cloud Hosting: เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีทราฟฟิกสูงขึ้น ต้องการประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น ราคาประมาณ 5,000 – 20,000 บาทต่อปี
    • Dedicated Server: เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่มาก หรือ E-commerce ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ราคาอาจเริ่มต้นที่ 8,000 – 20,000 บาทต่อเดือน
  • คำแนะนำ: เลือกแพ็กเกจโฮสติ้งที่เหมาะสมกับขนาดและปริมาณทราฟฟิกที่คาดการณ์ไว้ เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างราบรื่น

3. ค่า SSL Certificate (ใบรับรองความปลอดภัย)

SSL Certificate คือใบรับรองความปลอดภัยที่ช่วยเข้ารหัสข้อมูลระหว่างผู้ใช้งานกับเว็บไซต์ ทำให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต ปลอดภัย สังเกตได้จาก URL ที่ขึ้นต้นด้วย https:// (มีรูปแม่กุญแจ)

  • ราคา: มีทั้งแบบ ฟรี (เช่น Let’s Encrypt ซึ่งโฮสติ้งบางแห่งมีให้) ไปจนถึงแบบเสียเงินประมาณ 0 – 3,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับประเภทของ SSL และผู้ให้บริการ
  • ความสำคัญ: Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มี SSL ในการจัดอันดับ SEO และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้งาน

4. ค่าออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ (Design & Development Cost)

นี่คือส่วนที่ใหญ่ที่สุดของงบประมาณ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น:

  • เว็บไซต์สำเร็จรูป/Template: หากใช้แพลตฟอร์มเช่น WordPress พร้อมธีมสำเร็จรูปและปลั๊กอินพื้นฐาน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับธีมพรีเมียม (หลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อปี) และปลั๊กอินบางตัว (หลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อปี)
  • จ้างฟรีแลนซ์/บริษัท:
    • เว็บไซต์ Landing Page/Brochure: 5,000 – 50,000 บาท
    • เว็บไซต์ Corporate/SME ทั่วไป (5-10 หน้า): 15,000 – 150,000 บาท
    • เว็บไซต์ E-commerce (พร้อมระบบพื้นฐาน): 22,500 – 350,000 บาท
    • เว็บไซต์ Custom Development/Web Application: 100,000 บาท ขึ้นไปจนถึงหลักล้าน

5. ค่าจัดทำคอนเทนต์ (Content Creation)

คอนเทนต์ที่มีคุณภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเว็บไซต์ที่ดี ทั้งในแง่ของ SEO และการสื่อสารกับลูกค้า

  • ค่าเขียนบทความ/ข้อความ: หากคุณไม่ถนัดในการเขียน อาจต้องจ้างนักเขียนคอนเทนต์ ราคาประมาณ 800 – 5,000 บาทต่อบทความ หรือตามความยาวและความซับซ้อน
  • ค่าถ่ายภาพ/วิดีโอ: รูปภาพและวิดีโอคุณภาพสูงจะช่วยให้เว็บไซต์ดูน่าสนใจมากขึ้น ราคาอาจอยู่ระหว่าง 5,000 – 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและจำนวนของสื่อ
  • ค่าออกแบบกราฟิก/Infographic: หากต้องการภาพประกอบที่สวยงาม หรือ Infographic ที่ช่วยอธิบายข้อมูล ราคาอาจอยู่ระหว่าง 3,000 – 100,000 บาท

6. ค่าดูแลและบำรุงรักษา (Maintenance & Support)

เว็บไซต์ก็เหมือนรถยนต์ที่ต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย

  • ค่าใช้จ่าย: โดยทั่วไปจะคิดเป็นรายปีหรือรายเดือน ประมาณ 5,000 – 50,000 บาทต่อปี หรืออาจสูงกว่าหากเป็นเว็บไซต์ที่ซับซ้อนมาก
  • สิ่งที่รวมอยู่: การอัปเดตระบบ/ปลั๊กอิน, การสำรองข้อมูล, การตรวจสอบความปลอดภัย, การแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อย, การให้คำปรึกษา
  • ความสำคัญ: การดูแลรักษาที่ดีช่วยให้เว็บไซต์ไม่ล้าสมัย ปลอดภัยจากภัยคุกคาม และทำงานได้อย่างราบรื่น

7. ค่าการตลาดออนไลน์ (Online Marketing)

การมีเว็บไซต์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ คุณต้องทำให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์ของคุณเจอด้วย

  • SEO (Search Engine Optimization): การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหาของ Google แบบออร์แกนิก (ไม่เสียเงินค่าโฆษณา) ค่าบริการ SEO รายเดือนอาจเริ่มต้นที่ 5,000 – 30,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการแข่งขันในแต่ละ Keyword
  • SEM (Search Engine Marketing – Google Ads): การซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณแสดงผลเป็นอันดับแรกๆ ในหน้าผลการค้นหา ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับงบประมาณที่คุณต้องการลงโฆษณา และราคาต่อคลิกของ Keyword นั้นๆ
  • Social Media Marketing: การทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, TikTok เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมมายังเว็บไซต์ ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับงบประมาณโฆษณาและการจ้างผู้ดูแล

สรุปงบประมาณเริ่มต้นสำหรับธุรกิจ SME ในประเทศไทย

เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น ลองแบ่งงบประมาณออกเป็นกลุ่มต่างๆ สำหรับธุรกิจ SME:

1. งบประมาณประหยัด (เริ่มต้น 5,000 – 40,000 บาท)

  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดเล็กมาก, ผู้เริ่มต้น, เว็บไซต์แบบ Landing Page หรือเว็บไซต์ข้อมูลบริษัทง่ายๆ
  • แนวทาง: ทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองโดยใช้แพลตฟอร์มสำเร็จรูป (WordPress.org, Wix, MakeWebEasy) หรือจ้างฟรีแลนซ์สำหรับเว็บไซต์หน้าเดียว
  • สิ่งที่ได้รับ: โดเมน, โฮสติ้ง, SSL, Template พื้นฐาน, ฟังก์ชันติดต่อ, แกลเลอรี่รูปภาพ
  • ข้อควรพิจารณา: ต้องมีเวลาเรียนรู้และดูแลเอง, ฟังก์ชันอาจจำกัด, การออกแบบอาจไม่โดดเด่นเท่าที่ควร

2. งบประมาณปานกลาง (เริ่มต้น 40,000 – 150,000 บาท)

  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจ SME ที่ต้องการเว็บไซต์ Corporate ที่ดูเป็นมืออาชีพ มีหลายหน้า หรือ E-commerce ขนาดเล็ก
  • แนวทาง: จ้างฟรีแลนซ์มืออาชีพ หรือบริษัทรับทำเว็บไซต์ขนาดเล็ก/กลาง
  • สิ่งที่ได้รับ: โดเมน, โฮสติ้ง, SSL, Custom Design (ระดับหนึ่ง), เว็บไซต์หลายหน้า, ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) เช่น WordPress, อาจมีระบบ E-commerce พื้นฐาน (สำหรับสินค้าไม่กี่ชิ้น)
  • ข้อควรพิจารณา: คุณภาพงานอาจแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการ, อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับฟังก์ชันที่ซับซ้อน

3. งบประมาณสูง (เริ่มต้น 150,000 บาทขึ้นไป)

  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่, E-commerce เต็มรูปแบบ, ธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชันเฉพาะทาง ซับซ้อน และเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
  • แนวทาง: จ้างบริษัท Digital Agency มืออาชีพ
  • สิ่งที่ได้รับ: โดเมน, โฮสติ้งคุณภาพสูง, SSL, Custom Design ที่เป็นเอกลักษณ์, ระบบจัดการเนื้อหาที่ปรับแต่งได้, ระบบ E-commerce เต็มรูปแบบ, การเชื่อมต่อ API, การทำ SEO พื้นฐาน, การดูแลและบำรุงรักษา
  • ข้อควรพิจารณา: ราคาสูง, ระยะเวลาในการพัฒนาอาจนานขึ้น แต่ได้เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

ข้อแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการ SME

  • กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน: ก่อนเริ่มทำเว็บไซต์ ควรกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการให้เว็บไซต์ทำอะไรให้กับธุรกิจของคุณ (เช่น เพิ่มยอดขาย, ให้ข้อมูล, สร้างการรับรู้) เพื่อให้สามารถเลือกประเภทและฟังก์ชันที่เหมาะสม
  • ศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบราคา: ติดต่อสอบถามบริษัทหรือฟรีแลนซ์หลายๆ แห่ง เพื่อขอใบเสนอราคาและเปรียบเทียบรายละเอียดบริการที่แต่ละแห่งนำเสนอ
  • อย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายแฝง: นอกจากค่าพัฒนาเว็บไซต์แล้ว อย่าลืมเผื่องบประมาณสำหรับค่าดูแลรักษา, การอัปเดต และการตลาดออนไลน์
  • เริ่มต้นจากเล็กๆ แล้วค่อยขยาย: หากงบประมาณจำกัด อาจเริ่มต้นด้วยเว็บไซต์ที่มีฟังก์ชันพื้นฐานก่อน จากนั้นเมื่อธุรกิจเติบโตและมีงบประมาณมากขึ้น ค่อยเพิ่มฟังก์ชันหรือปรับปรุงเว็บไซต์ให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น
  • ให้ความสำคัญกับ Mobile-Friendly: ปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่เข้าถึงเว็บไซต์ผ่านมือถือ ดังนั้นเว็บไซต์ของคุณต้องสามารถแสดงผลบนอุปกรณ์พกพาได้อย่างสวยงามและใช้งานง่าย (Responsive Design)
  • เตรียมข้อมูลให้พร้อม: การเตรียมรูปภาพ ข้อความ และข้อมูลสินค้า/บริการให้พร้อม จะช่วยให้กระบวนการสร้างเว็บไซต์รวดเร็วขึ้น

บทสรุป

การสร้างเว็บไซต์ธุรกิจเป็นการลงทุนที่สำคัญและคุ้มค่าในระยะยาว แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปตามความต้องการและงบประมาณ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกลงทุนในสิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ และสามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเริ่มต้นทำเว็บไซต์อาจดูเป็นเรื่องใหญ่ แต่หากมีการวางแผนที่ดี ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสม คุณก็จะได้เว็บไซต์ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้ก้าวหน้าในโลกออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน

รับทำเว็บไซต์ขายของ: สร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณให้ปัง!

กำลังมองหาบริการ รับทำเว็บไซต์ขายของ ที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณอยู่ใช่ไหม? เราช่วยคุณได้! สร้างร้านค้าออนไลน์ที่ดึงดูดลูกค้า ใช้งานง่าย และรองรับการเติบโตของยอดขาย ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ เรามีแพ็กเกจที่หลากหลาย ตั้งแต่เว็บไซต์สำเร็จรูปไปจนถึงการพัฒนาเฉพาะทาง ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ทั้งระบบจัดการสต็อก ตะกร้าสินค้า และช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ช่วยให้การขายเป็นเรื่องง่าย สะดวกทั้งคุณและลูกค้า ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของคุณสู่โลกดิจิทัลวันนี้!